วันเยี่ยมชมห้องเรียน อ.๑/๔

เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา เป็นวันเยี่ยมชมห้องเรียนของห้องอนุบาล ๑/๔ ซึ่งเป็นห้องเรียนของเจนิซ กิจกรรมเยี่ยมชมห้องเรียนนี้จะมีทุกเทอมค่ะ...เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เห็นว่าลูกเรียนอะไรบ้างในเทอมนั้นๆ


ต้องบอกก่อนว่าที่นี่เน้นการเรียนเป็นโครงงาน หรือ Project Approach นั่นก็คือ...ให้เด็กๆ นำเสนอเรื่องที่อยากจะเรียนในเทอมนั้นแล้วก็จะโหวตเลือกเรื่องที่มีคนสนใจมากที่สุด สำหรับเด็กเล็กๆ อย่างอนุบาล ๑ คุณครูยังคงมีส่วนในการเลือกหัวข้อ เนื่องจากเด็กยังไม่สามารถที่จะนำเสนอเรื่องที่สนใจอยากรู้ได้เอง คุณครูก็จะพาเด็กๆ ไปเดินเล่นรอบโรงเรียน ดูสวนที่บ้านคุณครูมณีรัตน์ (เจ้าของโรงเรียน) ซึ่งจะมีสัตว์ต่างๆ มีบ่อปลา มีเต่า หลังจากนั้นก็จะถามเด็กแต่ละคนว่าชอบอะไร จากนั้นก็จะเอาคำตอบเด็กๆ มาไล่เรียงเป็นข้อโดยเลือกหัวข้อที่มีคนตอบมากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป จากนั้นก็จะโหวตกัน คุณครูจะแบ่งมุมต่างๆ ในห้องตามหัวข้อที่ให้เด็กเลือกแล้วก็ให้เด็กวิ่งไปยืนในมุมของหัวข้อที่ชอบ ที่ต้องใช้วิธีนี้เพราะเด็กวัยนี้ยังยกมือโหวตไม่เป็น...ก็จะเกิดการยกแล้วยกอีก ฉะนั้นให้วิ่งไปยืนตามมุมที่ชอบก็จะทำให้ได้จำนวนที่แน่ชัด โหวตเสร็จก็นับจำนวน (คุณครูจะสอนให้เด็กนับไปด้วยในตัว)

สรุปเทอมนี้หัวข้อที่เด็กๆ เลือกมากที่สุดคือ เรื่องเต่า ซึ่งเจนิซก็เป็นคนหนึ่งที่เสนอเรื่องนี้ (แต่ตอนโหวตไม่ได้โหวตกับเค้าหรอก เพราะไม่สบายอยู่บ้าน แหะๆ)

จากการเรียนเรื่องเต่า...คุณครูก็จะขยายความรู้ต่อไปยังเรื่องต่างๆ ที่เด็กควรจะต้องเรียนรู้ เช่น พยัญชนะ เลข ภาษาอังกฤษ รูปทรงต่างๆ และเน้นให้เด็กได้ทำกิจกรรมทางศิลปะหลายๆ อย่าง ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมให้เด็กต่อไป (ฝึกกล้ามเนื้อเล็ก)

วันเยี่ยมชมครั้งนี้ คุณครูประจำชั้นจะนำเสนอโครงงานที่เด็กๆ เลือกเรียน และบอกเล่าถึงที่มา ก่อนจะให้เด็กๆ ออกมา่นำเสนอผ่านการร้องเพลง การเต้นเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเป็นการฝึกให้เด็กกล้าแสดงออกอีกด้วย




เช้าวันนั้นเราตื่นกันแต่เช้า เพราะทั้งพ่อแม่เตรียมตัวไปดูลูกกันทั้งคู่ คุณพ่อถึงกับล็อกคิวกันเลยทีเดียว เนื่องจากช่วงนี้ยุ่งมาก แทบไม่ได้อยู่บ้านอยู่ช่องกับเค้าเลย ลูกคงแปลกใจเพราะพอพ่อแม่มาส่งแล้วก็ยังไม่กลับ แถมมาแอบดูตอนเข้าแถวเคารพธงชาติอีกด้วย กิจกรรมช่วงเข้าแถวที่มณีรัตน์เยอะมากค่ะ ร้องเพลงชาติ สวดมนต์เสร็จ ก็จะต้องทำกิจกรรมอย่างเช่น เต้นตามจังหวะเพลง (แบบง่ายๆ) ตบท้ายด้วยนั่งสมาธิสั้นๆ



หลังจากเคารพธงชาติและเด็กๆ เข้าห้องเรียนแล้ว บรรดาคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองทั้งหลายก็เข้าห้องประชุม ใช้เวลาพูดคุยไม่นานนักก็แยกย้ายไปที่ห้องเรียนของลูก คุณครูประจำชั้นก็จะกล่าวแนะนำถึงที่มาของโครงงานที่เรียนในเทอมนั้น แล้วก้ให้เด็กๆ ออกมาแนะนำตัวและแสดงความสามารถ โดยแบ่งเป็นกลุ่มๆ 
แม่ยังกังวลอยู่ว่าเจนิซจะอายไหมเวลาต้องออกมาแนะนำตัวหน้าชั้น แต่เจนิซทำได้ดีมาก แอบขำนิดหน่อยตอนคุณครูถามว่าชื่ออะไร เพราะลูกตอบว่า "ชื่อนิดค่า" ปกติเวลาแม่เรียกก็จะเรียกสั้นๆ ว่านิด แต่เวลาใครๆ ถามก็จะตอบเต็มๆ ว่าเจนิซ ไม่นึกว่าลูกจะจำ ที่จริงลูกก็ไม่เคยเรียกตัวเองกับใครว่านิดสักครั้ง พอคุณครูถามอีกครั้งลูกก็บอกชื่อเล่นเต็มๆ ว่า "ชื่อเจนิซค่า" เสียงดังฟังชัดมากๆ

กลุ่มของเจนิซออกมาร้องเพลงพร้อมทำท่าประกอบ คุณครูยื่นไมค์มาให้เจนิซร้องด้วย เจนิซก็ร้องโดยไม่เคอะเขิน ดูท่าจะชอบร้องออกไมค์ด้วย เพราะพอคุณครูดึงไมค์ไปให้เพื่อนคนอื่น เจนิซหยุดร้องไปแป๊บนึึง เหมือนเอาไมค์ไปแล้วร้องไม่ออก...

พอเสร็จจากการแสดงเล็กๆ น้อยๆ คุณครูก็พาเด็กๆ ออกจากห้อง แล้วให้ไปเล่นกันที่สนามหญ้าบ้านคุณครูมณีรัตน์ เพราะไม่อยากให้เด็กๆ เห็นภาพตอนพ่อแม่กลับเนื่องจากกลัวเด็กบางคนจะร้องไห้ตาม ร้องคนหนึ่งแล้ว คนอื่นๆ จะร้องตามเอาได้ ทีนี้ล่ะยุ่งแน่...

ช่วงที่เด็กๆ ออกไปแล้ว คุณครูก็ให้พ่อแม่ผู้ปกครองเดินดูผลงานของลูกที่ติดอยู่ในห้อง ก็เดินๆ ดูกันทั้งพ่อทั้งแม่ เห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกในหลายๆ ด้าน มีผลงานอยู่ชิ้นหนึ่งที่พอพ่อกับแม่เห็นแล้วก็ขำ ตอนแรกแม่ก็ไม่เก็ต จนพ่อพูดออกมานั่นล่ะถึงได้ร้องอ๋อ...

คุณครูให้เอาหินมาระบายสีและติดบนกระดาษแล้วทำเป็นรูปเต่า จากนั้นก็ให้วาดรูปร่างกายของหนูไว้ข้างๆ เดินดูของเด็กคนอื่นๆ ก็วาดมีแขนมีขาปกติ  แต่พอดูของลูกตัวเอง ทำไมขามันแปลกๆ หว่า...ดูยังไงๆ มันก็ไม่เหมือนร่างกายคน

พ่อเค้าเดินมาดูด้วยก็บอก..."ดู...ขนาดวาดรูปตัวเอง ยังเป็นแอเรียลเลย" [แอเรียล - ชื่อนางเอก(ซึ่งเป็นเงือก)ในการ์ตูนเรื่อง Little Mermaid]

 นั่นละ่แม่ถึง...อ๋อออ...ก็ว่าทำไมมันคุ้นๆ ที่แท้ก็วาดรูปเงือก


ปลากับนางเงือกนี่เป็นอะไรที่ชอบจริงชอบจังมากๆ ถึงจะมี Tinkerbell กับ Winx Club แวบวาบประปราย แต่ แอเรียล น่ะของตาย...ตุ๊กตาเงือกนี่มีอยู่หลายตัว ชอบเหลือเกิน




ถ้าถามพ่อกับแม่ว่าพอใจมั้ยกับการเรียนของลูก...ต้องบอกว่าพอใจมาก แม้ว่าใครหลายคนจะบอกว่าเรียนที่มณีรัตน์แล้วต้องไปเรียนเสริมเน้นวิชาการเพื่อเตรียมสอบเข้าประถม เพราะที่นี่ไม่เน้นวิชาการเท่าไร ต้องบอกว่า ถึงดูเหมือนว่าจะไม่เน้นวิชาการ แต่โครงงานที่เด็กๆ ทำนั้นก็มีการสอดแทรกวิชาการที่เด็กควรต้องรู้


ปกติเวลาอยู่บ้านแม่ก็พยายามสอนเพิ่มให้อยู่แล้ว เพราะไม่คิดว่าการให้ลูกเข้าโรงเรียนแล้วต้องทิ้งภาระทุกอย่างไว้ที่ครู การเรียนในวัยอนุบาลหรือประถมยังเป็นช่วงที่พ่อแม่สามารถสอนเพิ่มเติมได้อยู่โดยเฉพาะถ้ามีเวลา ฉะนั้นให้ลูกได้เรียนในโรงเรียนที่ทำให้เขารู้สึกว่าการเรียนนั้นสนุกและไม่น่าเบื่อ เป็นพื้นฐานให้ลูกรักที่จะเรียน...เป็นสิ่งที่พ่อกับแม่คำนึงถึงตลอดเวลา


และก็ไม่ผิดหวัง...เพราะลูกมีความสุขกับการเรียนอย่างเห็นได้ชัด ไม่เคยงอแงเวลาต้องไปโรงเรียน ไม่เคยเบื่อที่จะต้องทำการบ้าน


ฉะนั้นก็คิดว่าเลือกไม่ผิดหรอกที่ให้เรียนที่นี่

No comments:

Powered by Blogger.